วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เกมส์เศรษฐีประเทศไทย



ได้เห็นข่าวนายกฯ เข้าพบท่านประธานองคมนตรี พร้อมรายละเอียดการเข้าพบเรื่องยุบสภา ตลอดจนถึงอาสาไปเคลียร์ใจอุ้มรัฐบาลกับท่านบรรหารฯ เล่นเอาท่านบรรหารสะดุ้งโหยงบอกปัดพัลวัล...

ผมเองไม่มีความสงสัยเคลือบแคลงอะไรมานานแล้ว เพราะคนไทยได้รู้ และเห็นพฤติกรรม การกระทำอันเป็นเครื่องชี้เจตนาของท่านประธานองคมนตรี ที่มีปรากฏมากว่า 4 ปี ย้อนหลังไปตั้งแต่ท่านลงมาเปลี่ยนโผทหารสมัยนายกฯ ทักษิณ ไล่มาตั้งแต่ใส่ชุดทหารออกเดินสายปลุกระดมทหารให้รู้ว่า รัฐบาลเป็นแค่จ็อกกี้ ไม่ใช่เจ้าของม้า

ผมไม่สงสัยเลย และเหตุการณ์นี้มันทำให้ภาพเจ้าของอำนาจ “มือที่มองไม่เห็น” มันชัดเจนมากยิ่งขึ้น

ตกลงแล้วบัดนี้ประเทศไทยเรามีอำนาจที่เป็นของประชาจริงๆหรือไม่?

ในรัฐธรรมนูญให้แบ่งอำนาจเป็น บริหาร นิติบัญญํติ ตุลาการ แต่ความจริงอำนาจทั้งหมดตอนนี้วิ่งไปรวมศูนย์อยู่ที่บ้านสี่เสา
ในรัฐธรรมนูญให้อำนาจสูงสุดอยู่ที่นายกรัฐมนตรี แต่ความจริง อำนาจสูงสุดอยู่ที่พลเอกเปรมฯ
เราเชื่อว่าสิทธิการออกเสียงเลือกตั้งเป็นของปวงชนชาวไทย แต่เรากลับเพิ่งตาสว่างกันว่า การเลือกตั้งที่เราร้องขอและภูมิใจ กลับเป็นเพียงแค่หมากเดินใน “เกมส์เศรษฐี” ของบรรดาอำมาตย์

ดูไปดูมา “เจ้าของอำนาจประเทศไทย” คงไม่ใช่เรื่องหลอกเด็กอีกต่อไป แต่หลอกคนไทยทั้งประเทศ คนไทยไม่เฉลียวเลยว่า ทั้งหมดทั้งปวงบนหมากการเมืองไทยถูกกำหนดมาไว้ตั้งแต่เกิดจนตาย ใครได้รับอานิสงฆ์ก็จะไม่แหกปากโวยวาย ใครขัดขืนก็กำจัด พอจนแต้มก็บอก ไม่รักชาติ ไม่รักสถาบัน ทรยศชาติ

เรียกร้องแต่ฝ่ายเดี่ยวให้คนอื่นซื่อสัตย์ แต่ตัวเองโกงทุกช็อต
เรียกร้องแต่ฝ่ายเดียวให้คนอื่นเสียสละเงินส่วนตัวเจ็ดหมื่นล้าน แต่ตัวเองอมแม้กระทั่งแต่ป่าสงวนของหลวง
เรียกร้องแต่ฝ่ายเดียวให้ทุกคนสงบสันติ สามัคคี แต่ตัวเองปล่อยสมุนออกมาด่า กระทบกระเทียบเปรียบเปรย ใส่ร้าย สร้างสถานการณ์ทุกวัน

ผมไม่สงสัยในการกระทำทุกอย่างของอำมาตย์พลเอกเปรม แต่แค่สงสัยว่า ท่านเอาอำนาจใหนในรัฐธรรมนูญมากระทำมากกว่า?!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น